แด่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ชื่อว่าแม่

แด่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ชื่อว่าแม่

เมื่อคุณเกิดมาในโลกนี้ แม่อุ้มคุณไว้ในอ้อมอก...
คุณขอบคุณแม่ด้วยการเปล่งเสียงร้องไห้
เมื่อคุณอายุ 1 ขวบ แม่ป้อนข้าวและอาบน้ำให้คุณ
คุณขอบคุณแม่โดยการร้องไห้งอแง
เมื่อคุณอายุ 2 ขวบ แม่สอนให้คุณหัดเดิน
คุณขอบคุณแม่ด้วยการวิ่งหนีทุกครั้งที่แม่เรียกหา
เมื่อคุณอายุ 3 ขวบ แม่ทำอาหารทุกอย่างให้คุณด้วยความรัก
คุณขอบคุณแม่ด้วยการโยนจานลงบนพื้น
เมื่อคุณอายุ 4 ขวบ แม่ให้ดินสอสีแก่คุณ คุณขอบคุณแม่ด้วยการระบายสีเลอะเต็มบ้าน
เมื่อคุณอายุ 5 ขวบ แม่แต่งชุดสวยๆ(หรือหล่อๆ)ให้คุณไปเที่ยว
คุณขอบคุณแม่ด้วยการทำชุดเลอะโคลน
เมื่อคุณอายุ 6 ขวบ แม่ไปส่งคุณที่โรงเรียน คุณขอบคุณแม่ด้วยการร้องไห้ตะโกนว่า 'ไม่ไป ไม่ไป ไม่ไป...''
เมื่อคุณอายุ 7 ขวบ แม่ซื้อไอศกรีมให้คุณ
คุณขอบคุณแม่ด้วยการทำมันหกเลอะเทอะไปทั่ว
เมื่อคุณอายุ 8 ขวบ แม่ซื้อลูกบอลให้คุณ
คุณขอบคุณแม่ด้วยการทำกระจกเพื่อนบ้านแตก
เมื่อคุณอายุ 9 ขวบ แม่สอนให้คุณเล่นเปียโน
คุณขอบคุณแม่ด้วยการไม่เคยแม้แต่จะซ้อม
เมื่อคุณอายุ 10 ขวบ แม่พาคุณไปเรียนพิเศษและพาไปงานวันเกิดเพื่อน
คุณขอบคุณแม่ด้วยการกระโดดลงจากรถโดยไม่คิดที่จะหันกลับมามอง
เมื่อคุณอายุ 11 ขวบ แม่พาคุณกับเพื่อนไปดูหนัง
คุณขอบคุณแม่ด้วยการขอที่นั่งคนละแถว(หรือขอให้แม่ไม่ต้องดู)
เมื่อคุณอายุ 12 ขวบ แม่เตือนคุณว่าอย่าดูทีวี
คุณขอบคุณแม่ด้วยการรอให้แม่ไปข้างนอกแล้วดูต่อ
เมื่อคุณอายุ 13 ปี แม่บอกให้คุณตัดผม
คุณขอบคุณแม่ด้วยการด่าแม่ว่า 'แม่นี่ไม่มีรสนิยมเลย ไม่ต้องยุ่งกะหนู(ผม)หรอก'
เมื่อคุณอายุ 14 ปี แม่จ่ายเงินซัมเมอร์แคมป์ ที่แพงแสนแพงเพื่อให้คุณได้เรียนสิ่งที่ดีๆ
คุณขอบคุณแม่ด้วยการไม่เขียนจดหมายหาแม่ซักกะฉบับ
เมื่อคุณอายุ 15 ปี แม่กลับบ้านหลักงานเลิกอยากกอดคุณสักกอด
คุณขอบคุณแม่ด้วยการขังตัวเองอยู่ในห้อง
เมื่อคุณอายุ 16 ปี แม่สอนคุณขับรถ
คุณขอบคุณแม่ด้วยการขับรถหนีแม่ไปเที่ยว
เมื่อคุณอายุ 17 ปี แม่จ่ายค่าเรียนกวดวิชา
คุณขอบคุณแม่ด้วยการให้แม่ส่งข้างนอกเพื่อจะได้ไม่อายเพื่อน
เมื่อคุณอายุ 18 ปี แม่ร้องไห้ในวันที่คุณจบชั้นมัธยม
คุณขอบคุณแม่ด้วยการฉลองยันเช้า
เมื่อคุณอายุ 19 ปี แม่รอโทรศัพท์สายสำคัญ
คุณขอบคุณแม่ด้วยการใช้สายตลอดคืนนั้น
เมื่อคุณอายุ 20 ปี แม่ถามว่าคุณมีแฟนรึยัง
คุณขอบคุณแม่ด้วยการตอบว่า 'แม่อย่ามายุ่งกะหนู(ผม)เลย'
เมื่อคุณอายุ 21 ปี แม่แนะนำอาชีพของแม่ให้คุณทำในอนาคตของคุณ
คุณขอบคุณแม่ด้วยการพูดว่า 'หนู(ผม)ไม่อยากเป็นอย่างแม่'
เมื่อคุณอายุ 22 ปี แม่อยากกอดคุณในวันรับปริญญา
คุณขอบคุณแม่ด้วยการกอดกับเพศตรงข้ามกับคุณ
เมื่อคุณอายุ 23 ปี แม่ซื้ออพาร์ตเม้นท์และเฟอร์นิเจอร์ให้แก่คุณ
คุณขอบคุณแม่ด้วยการว่ากับเพื่อนๆลับหลังว่า 'มันช่างเชยและน่าเกลียดเสียนี่กระไร'
เมื่อคุณอายุ 24 ปี แม่บอกให้คุณพาแฟนของคุณมาหาแม่
เมื่อคุณพามา แม่ถามพวกคุณว่าอนาคตวางแผนไว้ว่าอย่างไร
คุณขอบคุณแม่ด้วยการจ้องเขม็งและพูดว่า 'แม่จะมายุ่งอะไรกะหนูอีกเนี่ย'
เมื่อคุณอายุ 25 ปี (สำหรับผู้ชาย)แม่ช่วยออกค่าสินสอดให้กับคุณ
และบอกกับคุณว่าแม่รักคุณมากขนาดไหน
คุณขอบคุณแม่ด้วยการพูดว่า'อายคนอื่นเขาน่า แม่'
(สำหรับผู้หญิง)แม่ช่วยออกค่าใช้จ่ายในงานแต่งงานให้คุณ
และบอกว่าแม่รักคุณมากขนาดไหน
คุณขอบคุณแม่ด้วยการพูดว่า'หนูอยากไปอยู่ต่างประเทศเพื่อจะได้สวีทกับแฟนโดนไม่มีแม่'
เมื่อคุณอายุ 30 ปี แม่โทรมาหาและแนะนำวิธีเลี้ยงเด็ก
คุณขอบคุณแม่โดยการบอกว่า 'สมัยนี้มันเปลี่ยนไปแล้วล่ะค่ะแม่'
เมื่อคุณอายุ 40 ปี แม่โทรมาชวนคุณไปงานวันเกิดญาติ
คุณขอบคุณแม่และญาติว่า 'ตอนนี้ไม่ว่างเลย'
เมื่อคุณอายุ 50 ปี แม่ชราและไม่สบาย อยากให้คุณดูแล
คุณขอบคุณแม่ด้วยการบอกว่า 'มันเป็นภาระนะแม่ หนูมีงานอีกเยอะแยะ'

และแล้ววันหนึ่ง...แม่ก็จากคุณไปอย่างสงบ
และทุกอย่างที่คุณไม่เคยทำมาก่อน จะเหมือนฟ้าผ่าในใจคุณ
โปรดใช้เวลาสักนิด แสดงออกถึงความลึกซึ้งแด่'แม่'
ไม่มีอะไรมาแทนแม่ได้

แม้ว่าบางคราวแม่จะไม่ใช่คนที่เข้าใจคุณมากที่สุด

หรือเห็นด้วยกับคุณ แต่ก็คือ'แม่ 'ของคุณ
และเชื่อได้ว่าจะทำทุกอย่างเพื่อคุณ รับฟังความกังวลของคุณ
ลองถามตัวเองดู...คุณมีเวลาที่จะฟังความเศร้า
ความกังวลใจไม่ว่าจากการงาน จากงานบ้าน หรือจากงานในครัวของแม่ไหม
คุณเคยนึกถึงความทุกข์ของแม่ที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อคุณและทุกคนไหม
รักแม่ให้มาก แม้ว่าจะคิดเห็นแตกต่างกัน
เพราะเมื่อแม่จากไป จะเหลือเพียงความเสียใจและความทรงจำเท่านั้น
อย่าเพิกเฉยกับคนที่ใกล้หัวใจคุณที่สุด
รัก'แม่'ให้มากกว่ารักตัวเอง แสดงให้แม่รู้ว่าคุณก็ 'รักท่าน'
ก่อนที่จะทำได้เพียงบอกรักกับ'รูป'ของแม่เท่านั้น...

ถ้าท่านเป็นคนที่รัก 'แม่'

**************

ในโอกาสวันที่ 14 เมษายนของทุกปี...เป็นวันครอบครัว...

ดิฉันจึงใคร่ขอเชิญชวนคุณ มาเริ่มสร้างความอบอุ่นความรักให้กับครอบครัวด้วยวิธีง่ายๆ
และเป็นความสุขเล็กๆ ที่พอจะให้กันได้ทันที
ด้วยการกอดคนในครอบครัวของคุณ
เริ่มแรกอาจจะรู้สึกเขินๆบ้าง...
แต่ดิฉันเชื่อว่า...เมื่อได้สวมกอดกันแล้ว จะรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
ไม่เชื่อลองดูสิคะ
ยิ่งถ้าได้กอดกันทุกวัน...จะทำให้ครอบครัวของคุณ ยิ่งแข็งแรง!!

สรุปสาระการเรียน (ครั้งที่ 4)

สรุปสาระการเรียน (ครั้งที่ 4)

ในวันนี้ เป็นชั่วโมงสุดท้าย เรียนในเรื่องต่อไปนี้

.

บทที่ 6 การบริหารจัดการระบบสารสนเทศในสถาบันการศึกษา

........เนื้อหาในบทนี้กล่าวถึงผู้เรียน ผู้สอน นโยบาย สื่อการสอน โครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยี สรุปได้ว่า..ผู้เรียน ในทุกระดับ ยังขาดการฝึกฝนในการนนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ ทำให้การถ่ายโอนการเรียนรู้ไม่เกิดขึ้น จึงมีแนวคิดในชื่อที่เรียนว่า ซิปปา (CIPPA) ซึ่งช่วยให้การเรียนรู้เกิดประโยชน์มากขึ้น ผู้สอน ต้องยึดปฏิบัติตามนโยบายแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ที่สำคัญการที่จะพัฒนาองค์กรการศึกษาให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้นั้น ต้องเริ่มจากการพัฒนาตัวบุคคลให้มีความรู้ก่อน และอธิบายถึงสื่อการสอน ซึ่งได้แก่สื่อทัศนูปกรณ์ สื่อที่แบ่งตามประสบการณ์การเรียนรู้ สื่อประสม รวมถึงสื่อดิจิตอลประเภทต่างๆ และเทคโนโลยี ได้แก่ คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสื่อสารและโทรคมนาคม นั่นเอง

.

บทที่ 7 นวัตกรรมทางการศึกษา

.........เนื้อหาในบทนี้ กล่าวถึง ความหมายของนวัตกรรม ความสำคัญของนวัตกรรม ขอบข่ายของนวัตกรรม นวัตกรรมทางการศึกษา และการจัดการนวัตกรรมทางการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเรียนการสอนบนเว็บ บทเรียนออนไลน์ ห้องสมุดเสมือนจริงและสื่อต่างๆ

.

บทที่ 8 โครงสร้างพื้นฐานกับการพัฒนาระบบนวัตกรรม

.........เนื้อหาในบทนี้ กล่าวถึง โครงสร้างพื้นฐานกับการพัฒนานวัตกรรม การพัฒนานวัตกรรม รวมถึงปัจจัยต่างๆที่มีผลต่อการยอมรับนวัตกรรมการศึกษา

.........จากการเรียนการสอนในวันนี้ ผู้สอนได้มอบภาระงานให้คือ 2 ชิ้นด้วยกัน คือ

..................1. งานในเวลาเรียน ให้นักศึกษา ตั้งคำถามตามเนื้อหาที่ผู้สอนได้บรรยาย ตามบทที่ 6-8 โดยมีเกณฑ์ให้คะแนนคือ ถามคำถาม จะได้ 4 คะแนน ตอบคำถาม จะได้ 6 คะแนน โดยผู้เรียนสนุกสนานในการถามและตอบกันอย่างสนุกสนาน

..................2. งานนอกเวลาเรียน ให้นักศึกษาอธิบายการประยุกต์ใช้นวัตกรรมกับการศึกษา โดยบูรณาการ การจัดการระบบสารสนเทศที่ทันสมัย หรือการสร้างนวัตกรรมทางการศึกษาของชุมชน ที่เป็นไปตามมาตรฐานการประกันคุณภาพการศึกษา โดยให้จัดพิมพ์ด้วย MS-WORD FONT Cordia New ขนาด 16 pt. ไม่เกิน 2 หน้ากระดาษ A4 ส่งไปที่อีเมล์ผู้สอน โดยบันทึกไฟล์ชื่อ FINOL-ID.DOC และหัวข้อเช่นเดียวกับไฟล์ ส่งภายในวันที่ 29 เมษายน 2552 หากมีปัญญา ไม่สามารถส่งงานได้ตามกำหนดเวลา ให้ส่งอีเมล์แจ้งก่อนวันที่ 29 เมษายน 2552

สรุปสาระการเรียน (ครั้งที่ 3)

สรุปสาระการเรียน (ครั้งที่ 3)
การเรียนในครั้งที่ 3 ได้ความรู้ในเรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการศึกษาสมัยใหม่
> การจัดการเรียนการสอนบนเว็บ
> ทำ blog ในหัวข้อ
- ประวัติส่วนตัวที่สามารถนำเสนอและเป็นประโยชน์
- ภาพประทับใจ 2 ภาพ แระบรรยายภาพ
- การสำรวจประชามติ ในส่วนที่น่าสนใจเกี่ยวกับเนื้อหาหรือบทความใน blog ของตนเอง
- สรุปสาระที่ได้รับ จากการเรียน 4 ครั้ง
- download งานโครงการที่ MS-WORD
และแจ้ง BLOG-LINK ไปยีงอีเมล์ของผู้สอน

สรุปสาระการเรียน (ครั้งที่ 2)

สรุปสาระการเรียน (ครั้งที่ 2)

ในครั้งที่ 2 นี้ ได้เรียนรู้สาระดังนี้

เกี่ยวกับการสื่อสารข้อมูลซึ่งจะต้องใช้เทคโนโลยีในการรับส่งและเชื่อมต่อจากคอมพิวเตอร์ด้วยกัน เพื่อให้สามารถสื่อสารกันได้ การสื่อสารข้อมูลทางสาย เป็นการติดต่อสื่อสารผ่านสายต่างๆ เช่น สายโทรศัพท์ สายเคเบิล ซึ่งเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง คือ โมเด็ม ไอเอสดีเอ็น ดีเอสแอล เอสดีเอช เคเบิลโมเด็ม คู่สายเช่า-วงจรเช่า การสื่อสารข้อมูลไร้สายในปัจจุบันเป็นที่นิยมมาก โทรศัพท์เคลื่อนที่ ดาวเทียมระบบดีบีเอส สื่อสัญญาณหมายถึงอุปกรณ์ในโรงข่ายโทรคมนาคมและคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ต้นทางไปยังปลายทาง ในปัจจุบันเทคโนโลยีโทรคมนาคมและเครือข่ายคอมพิวเตอร์พัฒนาก้าวไปอย่างมากและเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวัน

- การสร้างระบบสารสนเทศทางการศึกษา และชนิดของระบบสารสนเทศและการพัฒนาระบบ ซึ่งมี 4 ชนิด คือ

1. ระบบประมวลผลรายการ

2. ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ

3. ระบบสนันสนุนการตัดสินใจ

4. ระบบผู้เชี่ยวชาญ

งานในส่วนนี้ ให้จับคู่ตั้งคำถาม 2 ข้อ พร้อมคำตอบ

- เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการศึกษา

ระบบสารสนเทศทางการศึกษา ได้แก่

1. สื่อการเรียนรู้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน

2. สื่อมัลติมีเดีย

3. ระบบการทำงานของวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์

4. ห้องสมุดเสมือน

งานในส่วนนี้ จัดให้ทำงานกลุ่มและกลุ่มของข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้จัดทำระบบการทำงานของวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ พร้อมทั้งนำเสนอให้เพื่อนๆในห้องได้ทำความเข้าใจ

สรุปสาระการเรียน (ครั้งที่ 1)

สรุปสาระการเรียนรู้ครั้งที่ 1

ได้รับความรู้ในเรื่องต่อไปนี้

ข้อแตกต่างของข้อมูลและสารสนเทศ

- ข้อมูลยังไม่ได้ผ่านการประมวลผล
- สารสนเทศผ่านการประมวลแล้ว
ความรู้ (knowledge) คือ การรับรู้และความเข้าใจสารสนเทศจนถึงระดับที่สามารถวิเคราะห์ได้ ความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล สารสนเทศ และความรู้ เป็นการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ จากนั้นก็จะแปลงสารสนเทศ ตัดสินใจ และปฏิบัติ

สารสนเทศระบบ (system) คือ กลุ่มของส่วนประกอบต่าง ๆ ที่มีการทำงานร่วมกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ ระบบสารสนเทศ มีจุดมุงหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งสารสนเทศเพื่อการดำเนินงานการจัดการ และการตัดสินใจในองค์การ หรือ MIS จะต้องใช้อุปกรณ์ทางคอมพิวเตอร์ โปรแกรม ร่วมกับผู้ใช้ เพื่อให้เกิดความสำเร็จในการได้มาซึ่งสารสนเทศ ที่มีประโยชน์

ระบบสารสนเทศเป็นส่วนประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งในระบบธุรกิจปัจจุบันองค์การต่าง ๆ ได้พัฒนาแผนงานและกลยุทธ์ด้านสารสนเทศเพื่อใช้สนับสนุนการตัดสินใจและความได้เปรียบในการแข่งขัน สารสนเทศที่ดีต้องมีความถูกต้องแม่นยำ ประกอบด้วยข้อเท็จจริงที่สมบูรณ์ครบถ้วน เมื่อพิจารณาสารสนเทศแล้วจะต้องเข้าใจง่าย ช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจได้ทันเวลา นอกจากนี้ สารสนเทศที่ดีจะต้องสามารถตรวจสอบและเปรียบเทียบให้เห็นได้เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการนำไปใช้ ที่สำคัญจะต้องมีความปลอดภัยจากผู้ที่ไม่มีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลหรือสารสนเทศอีกด้วย

ดองดึงส์

หลายต่อหลายครั้ง ที่รู้สึกเหนื่อยล้า จนต้องหาทางพักผ่อนสมองด้วยการขับรถช้าๆเข้าไปตามทางรกๆ เงียบๆที่ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน เพื่อชมธรรมชาติใน 2 ข้างทาง ก็ได้ผลเกินคาดเลยทีเดียวค่ะ และวันนี้ ดิฉันก็ได้พบดอกไม้แสนงามในป่ารก ซึ่งทอประกายความสวยงามให้เห็น จนอดไม่ได้ที่จะหยุดยลโฉม..แรกเลยทีเดียว ไม่รู้จักหรอกค่ะว่าดอกไม้สวยๆที่เห็นนั่น มีชื่อว่าอะไร (เพราะวัยยังไม่ถึง เหอะๆ) ก็เลยถ่ายภาพแล้วนำไปถามผู้รู้ และสืบค้นใน intrenet

ดองดึงส์ หรือที่เรียกขานกันว่า ดาวดึงส์ ว่านก้ามปู หัวขวาน พันมหา บ้องขวาน ผะขาโก้ง คมขวาน ไม้ล้มลุก ลำต้นอยู่ใต้ดิน มีลักษณะเดียวกับเหง้ากระชาย สีขาวครีม รูปร่างคล้ายหัวขวาน ส่วนที่เป็นหัวหรือไหลเป็นสีขาวนมสด ชอบดินร่วนปนทราย เจริญเติบโตได้ในที่มีแสงแดดจัดและแดดร่มรำไร ดองดึงส์เป็นพืชเถาเลื้อย ก้านใบที่โผล่ขึ้นเหนือดิน ลักษณะเป็นเถากลมขนาดเล็ก แต่เหนียวเลื้อยเกาะได้สูง 1- 3 เมตร เถาเป็นข้อปล้องเห็นได้ชัด เมื่อดอกโรยจะติดผลเป็นรูปกระสวย 3 เส้าติดกันหมด ลักษณะและขนาดคล้ายผลตะลิงปลิง เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5 ซ.ม. มีสีเขียว เมื่อแก่จัดเป็นสีน้ำตาล มีเมล็ดเรียงอยู่ภายใน เส้าละ 2 แถว แถวละ 5 - 8 เมล็ด มีขนาดและสีคล้ายเมล็ดข้าวโพด การขยายพันธุ์ ใช้วิธีเพาะเมล็ด

การป้ายสี ที่มีแต่ความสวย..

เอาภาพศิลปะ สวยๆมาฝากค่ะ

ศิลปะประเภทนี้ เป็นศิลปะที่ใช้เทคนิคการป้ายสี ซึ่งเป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่งที่ดิฉันดูว่ามีเสน่ห์ นั่นคือ ศิลปะแบบ Impressionism เป็นการใช้พู่กันตระหวัดสีอย่างเข้มๆ ใช้สีสว่างๆ มีส่วนประกอบของภาพที่ไม่ถูกบีบ เน้นไปยังคุณภาพที่แปรผันของแสง เนื้อหาของภาพเป็นเรื่องธรรมดาๆ และมีมุมมองที่พิเศษ จิตรกรแนว อิมเพรสชั่นนิสม์ ได้ชื่อว่าเป็นพวกขบถ เพราะพวกเขามักวาดภาพจากสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าให้ดูแปลกประหลาดและอย่างไม่สิ้นสุด นักวาดแนวนี้ ปฏิเสธ ที่จะนำเสนอความงดงามในอุดมคติ และมองไปยังความงามที่เกิดจากสิ่งสามัญแทน พวกเขามักจะวาดภาพกลางแจ้งมากกว่าในห้องสตูดิโออย่างที่ศิลปินทั่วไปนิยมกัน เพื่อที่จะลอกเลียนแสงที่แปร เปลี่ยนอยู่เสมอในมุมมองต่างๆที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้นๆ

จะเห็นได้ว่า การ "ป้ายสีทางศิลปะ" เป็นเทคนิคหนึ่ง ที่ศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะ ใช้สร้างสรรค์ผลงานให้มีแต่ความสวย แต่ในปัจจุบันบ้านเรา มี"การป้ายสี"กันในสังคมรวมถึงในระดับประเทศ ซึ่งมีแต่จะทำให้เสื่อม...ดูภาพสวยๆ ที่เอามาฝาก แก้เครียดกันดีกว่า...

ล่องเรือ แลนก ทะเลน้อย...

ภาพประทับใจ:ล่องเรือ แลนก ทะเลน้อย ชมบัวล้านดอกเมืองลุง

จากภาพ หลังจากไปส่งน้องขวัญตัวอ้วน ที่ได้ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ ที่บ้านเกิดเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ถือโอกาสไปเที่ยวล่องเรือ แลนก ทะเลน้อย ชมบัวล้านดอกเมืองลุง พัทลุง จังหวัดทางภาคใต้ของไทย ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 840 กิโลเมตร ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งขุนเขา โดยวัฒนธรรมและประเพณีที่เก่าแก่มาแต่โบราณสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน มีชื่อเรียนขานกันว่า “ทะเลน้อย” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของนักดูนกอีกแห่งหนึ่ง เพราะความหลากหลายทางชีวภาพ และความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติทำให้มีนกนานาชนิดนอกจากนกเจ้าถิ่นแล้วยังมีนกต่างถิ่นบินมาอาศัยและหากินที่ทะเลน้อยให้นักท่องเที่ยวได้ชมตลอดทั้งปีไม่น้อยกว่า 285 ชนิด เช่น นกกระสาแดง นกกระสานวล นกกระยางควาย นกกาน้ำเล็ก นกแขวก นกกุลาขาว นกตีนเทียน เป็นต้น สิ่งหนึ่งที่จะตรึงตาตรึงใจในวันนั้น คือ ได้นั่งเรือชมทะเลน้อย คือ ทุ่งดอกบัวที่มีเป็นล้านๆ ดอก จนได้รับการขนานนามว่า “ทะเลล้านบัว” ซึ่งเมื่อดอกบัวโผล่พ้นน้ำเบ่งบานพร้อมกันแล้วจะสวยงามเป็นอย่างยิ่ง เมื่อนำเรือแหวกไปอยู่กลางทุ่งดอกบัวแล้ว เรือจะลำเล็กนิดเดียวไปทันที ถ้าคุณๆมีโอกาส ก็ลองแวะไปเที่ยวนะคะ แล้วจะรู้ว่า เมืองไทย มีอะไรๆน่าสนใจมากกว่าที่คิด และถือว่าช่วยเศรษฐกิจไทย ด้วยการท่องเที่ยวในเมืองไทยค่ะ...

เกี่ยวกับตัวฉัน

ข้อความประทับใจ
...ธรรมชาติของแก้ว ต้องแตก
...ธรรมชาติของน้ำ ต้องไหล
...ธรรมชาติของไฟ ต้องร้อน
...ธรรมชาติของลม ต้องพัด
... ฯลฯ ...
>> ถ้าเราเข้าใจธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง...
เราก็จะยอมรับความเป็น "ธรรมดา" ของธรรมชาติได้อย่างสงบเยือกเย็น"
>> เราเรียนรู้เรื่องการพลัดพราก ไม่ใช่แค่เพียงเพื่อเตือนความรู้สึก "หดหู่"
แต่ควรเรียนรู้เพื่อที่จะอยู่กับคนที่เรารัก อย่างมีความสุขที่สุด
ไม่ว่าจะอยู่ หรือต้องจากกันก็ตาม...
>> ถ้าวันนี้คุณยังไม่รู้จักคำว่าจริงใจ อย่าหวังว่าคุณจะได้รับความจริงใจจากใครๆ เช่นกัน และสักวัน คุณก็จะไม่เหลือใครเลย...